ถ้า
ใครเคยอ่าน หรือผ่านตาเรื่องเล่าเกี่ยวกับตำนานอาหารไทย
แน่นอนว่าเกือบจะทุกตำราก็มักจะกล่าวถึงน้ำพริกลงเรือตำรับชาววังอยู่เสมอ
เพราะน้ำพริกถ้วยนี้ถือกำเนิดมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 โน่นแน่ะ
และเป็นที่นิยมมาจวบจนทุกวันนี้ ด้วยเสน่ห์ของรสชาติหวาน เผ็ดเค็ม
มันทำให้ใครก็ตามได้ชิมก็ต้องหลงไหล แถมเครื่องเคียงก็มีมากมายทั้งผักสด
และแน่นอนว่าต้องกินคู่กับหมูหวาน ปลาดุกฟู และไข่เค็ม ถึงจะอร่อยสุด ๆ
อย่างนั้นก็ไปดูวิธีการทำน้ำพริกถ้วยเก่าถ้วยนี้กันดีกว่า
สิ่งที่ต้องเตรียม
- กระเทียม 1 ช้อนโต๊ะ
- กะปิ (เผาจนหอม) 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
- เนื้อมะดันซอยบาง 2 ลูก
- เนื้อมะอึกหั่นบาง 2 ลูก
- พริกขี้หนูสวน 10-20 เม็ด
- น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันพืชสำหรับผัด
- หมูหวาน สำหรับรับประทานคู่
- กุ้งแห้งโขลกละเอียด 3 ช้อนโต๊ะ
- ปลาดุกฟู สำหรับรับประทานคู่
- ไข่เค็มต้ม (หรือไข่ต้ม) สำหรับรับประทานคู่
- ผักสดตามชอบ สำหรับรับประทานคู่
วิธีทำ
1. โขลกกระเทียมกับกะปิ และน้ำตาลปี๊บจนละเอียดเข้ากันดี ใส่เนื้อมะดัน เนื้อมะอึก และพริกขี้หนู โขลกผสมจนเข้ากันอีกครั้ง ปรุงรสด้วยน้ำมะนาว คนผสมให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ เตรียมไว้
2. ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะ นำขึ้นตั้งไฟปานกลางพอร้อน ใส่เครื่องที่โขลกไว้ลงผัดจนหอม ใส่หมูหวาน และกุ้งแห้งลงผัดจนเข้ากัน ตักใส่ถ้วย รับประทานคู่กับหมูหวาน ปลาดุกฟูกรอบ และไข่เค็ม
สิ่งที่ต้องเตรียม (สำหรับหมูหวาน)
- หอมแดงสับละเอียด 2 หัว
- น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
- เนื้อหมูสามชั้นหั่นชิ้นเล็ก 200 กรัม
- น้ำมันพืชสำหรับผัด
วิธีทำ
1. ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะ นำขึ้นตั้งไฟปานกลางพอร้อน ใส่หอมแดงลงเจียวจนหอม ใส่น้ำตาลปี๊บ และน้ำปลาลงคนผสมให้เข้ากัน ใส่เนื้อหมูลงผัดจนสุก และเนื้อหมูเงาสวย ชิมรสตามชอบ แบ่งเป็น 2 ส่วน เตรียมไว้
สิ่งที่ต้องเตรียม (สำหรับปลาดุกฟู)
- ปลาดุกย่าง 1 ตัว
- น้ำมันพืชสำหรับทอด
วิธีทำ
1. แกะเนื้อปลาดุกออก เอาเฉพาะเนื้อ จากนั้นใช้ส้อมยีให้ละเอียด เตรียมไว้
2. ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะ นำขึ้นตั้งไฟปานกลางพอร้อน ใส่เนื้อปลาดุกลงทอดจนฟูเหลืองรอบ ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน เตรียมไว้รับประทานคู่กับน้ำพริกลงเรือ
อาจ จะมีหลากหลายขั้นตอนในการทำน้ำพริกลงเรือ แต่ถ้าได้ลองทำกินแล้วรับรองว่าจะติดใจ และใครมีน้ำพริกลงเรือเหลือ ๆ ก็นำไปผัดกับข้าวกินก็อร่อยไปอีกแบบนะคะ
0 comments:
Post a Comment