Subscribe For Free Updates!

We'll not spam mate! We promise.

Thursday, April 30, 2015

วิธีทำปลาทูต้มหวาน อาหารไทยพื้นบ้านหอมหวานอร่อย

ปลาทูต้มหวาน อาหารไทยพื้นบ้านหอมหวานอร่อย
ขอขอขคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ isolateboy สมาชิดกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

          ไม่นานมานี้เราได้เสนอเมนูอร่อย ๆ จากปลาทู ที่ไม่ใช่แค่ทอดกินกับน้ำพริก อย่างเมนูต้มส้มปลาทู อาหารไทยพื้นบ้านรสเปรี้ยวเค็มหวาน อร่อยกลมกล่อมมาฝาก แล้วในเมื่อมีต้มส้มก็ต้องมาคู่กับต้มหวาน เราจึงขอหยิบยกสูตรปลาทูต้มหวานน่ากิน ๆ จาก คุณ isolateboy สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม  ที่ทำง่าย ๆ แถมออกมาดูน่ากินมากเลยทีเดียว

          คุณ isolateboy สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม บอก ว่า ปลาทูต้มหวานทำง่าย เก็บไว้กินได้นาน เพราะว่ายิ่งอุ่น ยิ่งเคี่ยว ยิ่งนานก็ยิ่งอร่อย เพราะน้ำจะซึมเข้าตัวปลา ก้างปลาจะนิ่ม กินง่าย แค่มีข้าวสวยร้อน ๆ ก็พร้อมกินแล้ว ส่วนวิธีทำก็ไม่ยากอะไรเลย เป็นแค่การต้มไม่ซับซ้อน และหลายขั้นตอน เหมาะสำหรับแม่บ้านยุคใหม่ ไม่ต้องมาคอยเฝ้า พลิกกลับอาหาร หรือต้องคอยคนบ่อย ๆ วัตถุดิบก็ไม่มีอะไรเยอะ ดัดแปลงมา รสชาติใช้ได้ รวม ๆ คล้ายปลาทูต้มอ้อย ปลาทูต้มส้ม แต่นี่เราใส่น้ำตาลปี๊บเยอะหน่อยเลยกลายเป็นปลาทูต้มหวานนั่นเอง รู้อย่างนี้แล้วก็ลงมือทำกันเลยดีกว่าค่ะ

สิ่งที่ต้องเตรียม

  1.           ปลาทูสด 1 กิโลกรัม
  2.           น้ำตาลปี๊บ 2 ขีด
  3.           พริกไทยเม็ด 50 กรัม
  4.           ขิงสด 1 ขีด (หรือ 1 เหง้าก็พอ แต่ถ้าชอบก็เพิ่มได้)
  5.           หอมแดง 1 ขีด
  6.           เกลือป่น หยิบมือ
  7.           มะขามเปียก ประมาณ 1 ขีด (หรือน้อยกว่านั้น)
  8.           ตะไคร้ 2 หัว  (ไม่มีไม่ได้ใส่ )

วิธีทำ



          เครื่องปรุงเอาเท่าที่มี ตามภาพ




          ทุบขิงพอหยาบ พริกไทยบุบพอแตก หอมแดงผ่าซีกหรือใส่ทั้งหัวก็ได้ หากมีตะไคร้ก็ทุบ ๆ แล้วหั่นยาวหน่อย รองไว้ก้นหม้อ ถ้าไม่มีเลยไม่ใส่ก็ได้



          นำปลาทูที่ควักไส้และล้างสะอาดแล้วใส่ลงไป (เรียงไม่สวย ปลาแช่แข็งตัวเล็กไปหน่อยรอบนี้ แถมไม่สด ทำให้ต้มแล้วท้องปลาเละ)

 

          คั้นน้ำมะขามเปียก กะปริมาณน้ำให้ท่วมตัวปลา เทตามลงไป (ที่ใส่น้ำมะขามเปียก คือตัดรสหวาน จะได้ไม่หวานเลี่ยน รสชาติจะอร่อยมีรสอมเปรี้ยวนิด)





          ยกขึ้นตั้งไฟ รอให้เดือด แล้วหรี่ไฟให้อ่อนสุด แค่ให้น้ำเดือดปุด ๆ พอ ไม่ต้องให้เดือดพล่าน ไม่ต้องปิดฝาหม้อ ไม่ต้องคน รอจนน้ำงวด 



          ใช้เวลาในการเคี่ยวนานหน่อย น้ำและส่วนผสมต่าง ๆ จะซึมเข้าตัวปลาเรื่อย ๆ ลองชิมดูว่า หวานพอใจเราหรือยัง (เติมได้) เค็มหรือจืดไปไหม (เติมได้) ปรุงได้ ไม่ต้องตามสูตรเป๊ะ รสที่ได้จะ หวาน ๆ อมเปรี้ยวนิด ๆ เผ็ดลิ้นแบบกลมกล่อมด้วยขิงและพริกไทย 

          แค่นี้ก็ได้ปลาทูต้มหวานที่อร่อย ๆ แล้ว ยิ่งอุ่นบ่อยยิ่งเข้าเนื้อยิ่งอร่อย

Socializer Widget By Blogger Yard
SOCIALIZE IT →
FOLLOW US →
SHARE IT →

0 comments:

Post a Comment